ทุกสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับรูปแบบส่งคำขอจอง

อัปเดตเมื่อ 1 เดือน ที่แล้ว | 4 นาที
บันทึก

ฟีเจอร์ส่งคำขอจองจะทำให้ท่านควบคุมได้เต็มที่ในด้านการจัดการกับคำขอจอง ฟีเจอร์นี้ต่างจากรูปแบบจองได้ทันทีที่ลูกค้าสามารถจองที่พักได้โดยตรง โดยการส่งคำขอจองจะกำหนดให้ลูกค้าต้องส่งคำขอจองที่ท่านเลือกยอมรับหรือปฏิเสธได้ 

เมื่อเทียบกับรูปแบบจองได้ทันทีแล้ว ฟีเจอร์ส่งคำขอจองต้องอาศัยเวลามากกว่าในการจัดการ และอาจส่งผลให้มีการจองน้อยลงและมีแนวโน้มที่จะได้รายได้น้อยลง


เนื้อหาในบทความนี้:


การทำงานของฟีเจอร์ส่งคำขอจอง

ลูกค้าจะดูที่พักที่ใช้ฟีเจอร์ส่งคำขอจองได้ก็ต่อเมื่อค้นหาและทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเช็คอิน หากลูกค้าต้องการทำการจองแบบกระชั้นชิด ก็จะจองได้เฉพาะที่พักที่ใช้รูปแบบจองได้ทันทีเท่านั้น

ด้านล่างนี้คือการทำงานของฟีเจอร์ส่งคำขอจอง:

  1. ลูกค้าที่ต้องการเข้าพักในที่พักของท่านโดยมีกำหนดเช็คอินหลังจากนี้เกิน 3 วันขึ้นไปจะส่งคำขอจองถึงท่าน
  2. ท่านจะได้รับการแจ้งเตือนว่ามีคำขอจองเข้ามา และมีเวลา 24 ชั่วโมงในการยอมรับหรือปฏิเสธการจองดังกล่าว
  3. หากท่านยอมรับคำขอ ลูกค้าก็จะมีเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อจองให้เสร็จสิ้นและยืนยันการเข้าพัก แต่หากลูกค้าไม่ได้จองให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด คำขอดังกล่าวก็จะหมดอายุและไม่มีการจองเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ท่านจะไม่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงจนกว่าการจองจะได้รับการยืนยัน แต่ท่านสามารถตอบคำถามที่พบทั่วไปได้ที่ส่วนคำถามและคำตอบเกี่ยวกับที่พักในเอกซ์ทราเน็ต


การทำงานของการตั้งราคาและการชำระเงิน

การตั้งราคา

ราคาที่แสดงเมื่อมีการส่งคำขอจองคือราคาที่ลูกค้าจะชำระหากลูกค้าเลือกจองทันที ราคานี้อาจแตกต่างจากราคาที่ลูกค้าจะชำระเมื่อลูกค้ายืนยันการจอง 

กรณีที่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงมีดังต่อไปนี้:

  • ท่านเริ่มเสนอโปรโมชั่น
  • ท่านเปลี่ยนราคาห้องพัก

หากราคาเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ลูกค้าส่งคำขอจองมาแล้ว ลูกค้าจะได้รับแจ้งราคาใหม่หลังจากที่ท่านยอมรับคำขอจอง หากลูกค้าตกลงที่จะชำระราคาใหม่ ก็สามารถดำเนินการต่อได้และยืนยันการจอง หากลูกค้าไม่ตกลงที่จะชำระราคาใหม่ ก็สามารถมองหาที่พักอื่นสำหรับจองได้ และจะไม่มีการปรับใด ๆ หากลูกค้าตัดสินใจไม่ดำเนินการจองให้เสร็จสิ้นหลังจากที่ทราบราคาใหม่

การชำระเงิน

ลูกค้าจะยืนยันการจองได้ต่อเมื่อท่านยอมรับคำขอจอง แต่ไม่ต้องชำระเงินจนกว่าลูกค้าจะยืนยันการจองแล้ว เวลาที่แน่ชัดที่จะมีการชำระเงินดังกล่าวนี้ขึ้นอยู่กับแนวทางที่ท่านจัดการการชำระเงินของลูกค้า ณ ที่พักของท่าน


การตั้งค่าฟีเจอร์ส่งคำขอจอง

ท่านสามารถตั้งค่าฟีเจอร์ส่งคำขอจองในระหว่างที่ดำเนินการลงทะเบียนที่พักของท่านบนแพลตฟอร์มของเรา โดยวิธีการมีดังนี้:

  1. เมื่อไปถึงหน้ารูปแบบการรับจองของท่าน โปรดเลือกลูกค้าทุกรายจะต้องส่งคำขอจองเพื่อตั้งค่าฟีเจอร์ส่งคำขอจอง แต่หากต้องการตั้งค่าเป็นรูปแบบจองได้ทันที ให้เลือกลูกค้าทุกรายสามารถจองได้ทันที
  2. ทำตามคำแนะนำเพื่อตั้งค่าให้เสร็จสิ้นสำหรับที่พักท่าน 

ท่านสามารถเริ่มรับคำขอจองได้ทันทีที่ที่พักของท่านเปิดรับการจองออนไลน์บนแพลตฟอร์มของเรา 

ทั้งนี้ ท่านสามารถสลับรูปแบบที่ต้องการได้ทุกเมื่อระหว่างจองได้ทันทีกับส่งคำขอจอง โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

  1. เข้าสู่ระบบเอกซ์ทราเน็ต
  2. เลือกแท็บที่พักและคลิกนโยบาย
  3. ที่หัวข้อนโยบายอื่น ๆ ให้คลิกแก้ไขที่อยู่ในกล่องรูปแบบการรับจองของท่าน
  4. ใต้ข้อความลูกค้าจะจองที่พักของท่านได้อย่างไร? เลือกลูกค้าทุกรายสามารถจองได้ทันทีเพื่อเปิดใช้รูปแบบจองได้ทันที หรือเลือกลูกค้าทุกรายจะต้องส่งคำขอจองเพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ส่งคำขอจอง
  5. คลิกบันทึก

การจัดการคำขอจอง

ท่านสามารถยอมรับหรือปฏิเสธคำขอจองได้หลายวิธีด้วยกัน

ผ่านทางกล่องข้อความอีเมลของท่าน

ด้านล่างนี้เป็นวิธียอมรับหรือปฏิเสธคำขอจองผ่านอีเมลแจ้งเตือนที่ท่านได้รับ:

  1. เข้าสู่ระบบไปยังกล่องข้อความอีเมลของท่าน และเปิดอีเมลที่แจ้งเกี่ยวกับคำขอจองรายการใหม่
  2. คลิกปุ่มยอมรับหรือปฏิเสธคำขอเพื่อเปิดหน้าข้อมูลคำขอในเอกซ์ทราเน็ต
  3. ใต้หัวข้อรายละเอียดคำขอจอง เลือกยอมรับหรือปฏิเสธ

 

ผ่านทางเอกซ์ทราเน็ต

หากต้องการยอมรับหรือปฏิเสธคำขอจองผ่านเอกซ์ทราเน็ตโดยตรง โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เข้าสู่ระบบเอกซ์ทราเน็ต
  2. ไปที่แท็บการจองแล้วเลือกคำขอจอง
  3. ไปที่คอลัมน์สถานะเพื่อดูการจองที่รอการตอบกลับ จากนั้นคลิกลิงก์ใต้คอลัมน์ผู้เข้าพัก
  4. ในหน้ารายละเอียดคำขอจอง ให้คลิกยอมรับหรือปฏิเสธเพื่อยอมรับหรือปฏิเสธคำขอแต่ละรายการ

 

ผ่านทางแอป Pulse

วิธียอมรับหรือปฏิเสธคำขอจองผ่านแอป Pulse โดยตรง:

  1. เข้าสู่ระบบแอป Pulse
  2. เลือกคำขอที่รอท่านดำเนินการได้จากแท็บหน้าหลัก หรือไปที่การจองแล้วเลือกคำขอจองเพื่อค้นหารายการการจองทั้งหมด
  3. แตะคำขอที่มีสถานะรอดำเนินการหรือรอคำตอบของท่าน
  4. ตรวจสอบรายละเอียดคำขอจอง และคลิกที่ยอมรับหรือปฏิเสธเพื่อยอมรับหรือปฏิเสธคำขอ

ก่อนที่จะปฏิเสธคำขอจอง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้อ่านนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติของเรา ทั้งนี้ การปฏิเสธคำขอจำนวนมากอาจส่งผลเสียต่อประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากที่พักของท่าน


คำถามที่พบบ่อย

  • ขณะนี้ฟีเจอร์ส่งคำขอจองมีการจำกัดการให้บริการอยู่ โดยมีเฉพาะที่พักบางประเภทที่ตั้งอยู่ในประเทศดังต่อไปนี้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์:

    • อิตาลี
    • สหราชอาณาจักร 
    • ฝรั่งเศส
    • สเปน 
    • เยอรมนี
    • ออสเตรเลีย 
    • สหรัฐอเมริกา

    หากที่พักของท่านมีสิทธิ์ ท่านก็จะเห็นตัวเลือกสำหรับใช้ฟีเจอร์ส่งคำขอจองแสดงในระหว่างที่ลงทะเบียนที่พัก หรือในหน้านโยบายของเอกซ์ทราเน็ตที่พัก

  • กรณีที่เราจะส่งอีเมลถึงท่านมีดังต่อไปนี้: 

    • ท่านได้รับคำขอจองรายการใหม่
    • คำขอจองหมดอายุก่อนที่ท่านดำเนินการ
    • คำขอจองหมดอายุก่อนที่ลูกค้ายืนยันการจอง
    • ท่านมีคำขอจองที่รอดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมากเกินไป

    กรณีที่เราจะส่งการแจ้งเตือนแบบพุชถึงท่านมีดังต่อไปนี้:

    • ท่านได้รับคำขอจองรายการใหม่
    • คำขอจองใกล้หมดอายุในเร็ว ๆ นี้
    • ท่านมีคำขอจองที่รอดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมากเกินไป

    หากท่านใช้แอป Pulse โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดรับการแจ้งเตือนไว้แล้ว

  • เพื่อให้ท่านสามารถเลือกคำขอจองที่เหมาะกับท่านที่สุด เมื่อลูกค้าส่งคำขอจองเราจึงไม่ได้ดำเนินการบล็อกอัตโนมัติกับตัวเลือกว่างที่ท่านเปิดให้จองในปฏิทิน ด้วยเหตุนี้บางครั้งท่านจึงอาจได้รับคำขอที่มีช่วงเข้าพักทับซ้อนกันบางส่วนหรือทั้งหมด ในกรณีดังกล่าว ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะยอมรับการจองใดและปฏิเสธการจองใดผ่านเอกซ์ทราเน็ตหรือแอป Pulse

  • ฟีเจอร์ส่งคำขอจองจะมีให้บริการในไม่ช้าสำหรับที่พักคู่ค้าที่ใช้ Channel manager และระบบจัดการที่พัก โปรดตรวจสอบกับ Channel manager หรือระบบจัดการที่พักเพื่อดูว่ามีตัวเลือกนี้ให้สำหรับที่พักท่านหรือไม่

  • เราให้ความสำคัญกับการเลือกปฏิบัติเป็นอย่างมาก และหวังว่าท่านจะตรวจสอบและปฏิบัติตามแนวทางด้านการไม่เลือกปฏิบัติของเราก่อนที่จะตัดสินใจปฏิเสธคำขอจอง

  • เราขอแนะนำให้ท่านยอมรับหรือปฏิเสธคำขอจองโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ผู้เดินทางได้รับประสบการณ์ที่ดีในฐานะลูกค้า ผู้เดินทางจะรู้สึกขอบคุณที่ท่านดำเนินการรวดเร็ว และคิดเห็นเชิงบวกมากขึ้นกับท่านและที่พักของท่านแม้ว่าท่านจะปฏิเสธคำขอจองก็ตาม การไม่ดำเนินการกับคำขอจองส่งผลให้ธุรกิจของท่านมีคำขอคงค้างจำนวนมากขึ้นที่จะต้องไล่ดำเนินการ อีกทั้งได้ยอดจองน้อยลง และอาจมีรายได้น้อยลง

  • หากท่านไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธคำขอภายใน 24 ชั่วโมง เราจะแจ้งให้ท่านทราบว่าคำขอนั้นหมดอายุแล้วและได้รับการปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ท่านจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับคำขอจองได้อีกหลังจากที่คำขอนั้นหมดอายุแล้ว ลูกค้าจะได้รับอีเมลอธิบายว่าท่านไม่ได้ตอบกลับ รวมถึงสอบถามลูกค้าว่าต้องการส่งคำขอจองอีกครั้งหรือเลือกที่พักแห่งอื่น คำขอที่หมดอายุเพียงไม่กี่รายการอาจไม่ส่งผลต่อธุรกิจของท่านมากนัก แต่การปล่อยให้มีคำขอที่หมดอายุเป็นจำนวนมากเกินไปอาจส่งผลให้ลูกค้าไม่พึงพอใจ มียอดจองเข้ามาน้อยลง และท่านอาจมีรายได้น้อยลง

บทความนี้มีประโยชน์ไหม?