การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงคืออะไร?
ในปี ค.ศ. 2019 สหภาพยุโรป (EU) ได้ใช้กฎหมายใหม่ภายใต้ Payment Service Directive (PSD2) เพื่อลดการฉ้อโกงและทำให้การทำธุรกรรมปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA)
การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูง (SCA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้ธุรกิจออนไลน์ทั้งหมดรวมถึง Booking.com ต้องใช้มาตรการตรวจสอบที่มีความละเอียดยิ่งขึ้นสำหรับธุรกรรมเมื่อทั้งผู้ถือบัตรและธนาคารที่ธุรกิจใช้บริการนั้นอยู่ในเขต EEA
มาตรการเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้า (ในกรณีนี้คือผู้เข้าพักที่ที่พักของท่าน) เป็นเจ้าของบัตรอย่างถูกต้อง หากไม่มีการใช้ SCA กฎหมายกำหนดให้ธนาคารต้องปฏิเสธการชำระเงินดังกล่าว
การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงหมายความว่า จะต้องมีการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้าผ่านขั้นตอนโดยละเอียด กล่าวคือ ลูกค้าต้องพิสูจน์ว่าตนเองเป็นเจ้าของบัตรที่ใช้ โดยเลือก 2 จาก 3 วิธียืนยัน* ตามที่แสดงด้านล่าง:
*ข้อมูลที่ลูกค้ารู้ (รหัสผ่านหรือ PIN) อุปกรณ์ที่ลูกค้ามี (โทรศัพท์) หรืออัตลักษณ์ของลูกค้า (ลายนิ้วมือ)
หมายเหตุ: ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป หากการชำระเงินที่ต้องยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงมีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ ธนาคารก็จะปฏิเสธการชำระเงินดังกล่าว โดยขึ้นอยู่กับการบังคับใช้ในแต่ละประเทศ
แม้ว่ากฎหมายได้เริ่มมีผลบังคับใช้ไปในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 แต่ก็มีการกำหนดเส้นตายใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2021 เพื่อช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ปรับตัวได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นในการดำเนินมาตรการ SCA แม้ว่าข้อบังคับ SCA มีกำหนดที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2021 ทว่าแต่ละประเทศจะมีการตั้งไทม์ไลน์เป็นของตนเองในการเริ่มใช้ข้อบังคับดังกล่าว
คลิกเพื่อไปหัวข้อที่ต้องการ:
จะต้องใช้การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงเมื่อใด?
Booking.com จะช่วยเหลืออย่างไรบ้าง?
- กรณีที่ Booking.com จัดการด้านการชำระเงินบางส่วน
- กรณีที่ Booking.com จัดการด้านการชำระเงินทั้งหมด
ทำไมกฎหมายใหม่จึงเรียกว่า PSD2?
จะมีการบังคับใช้ SCA ภายใต้กฎหมาย PSD2 ในดินแดนใดบ้าง?
สิ่งนี้ส่งผลอย่างไรต่อประเทศของท่าน?
จะต้องใช้การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงเมื่อใด?
การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงจะนำมาใช้ในกรณีที่ท่านเรียกชำระเงินจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตซึ่งออกโดยองค์กรในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และท่านก็อยู่ในเขตนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ท่านพยายามเรียกชำระเงินจากบัตรโดยไม่ได้ใส่ตัวบัตรจริง ๆ เข้าไปยังเครื่อง POS ก็จะต้องใช้ขั้นตอนยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูง
Booking.com จะช่วยเหลืออย่างไรบ้าง?
Booking.com จะเป็นผู้ดูแลด้านการยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงให้สำหรับการจองใดก็ตามที่รับการอำนวยความสะดวกผ่านทางบริการรับชำระเงินออนไลน์
กรณีที่ Booking.com จัดการด้านการชำระเงินบางส่วน
หากท่านใช้บริการรับชำระเงินออนไลน์และ Booking.com ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินบางส่วนให้อยู่แล้ว เราก็จะช่วยเหลือท่านดังนี้:
กรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้ SCA
เมื่อลูกค้าชำระเงินโดยใช้บริการรับชำระเงินออนไลน์ เราจะจัดการตรวจสอบธุรกรรมการชำระเงินและท่านก็จะได้รับบัตรเครดิตเสมือนจริงจากเราซึ่งท่านจะสามารถเรียกชำระเงินได้เหมือนที่เคยทำมา บัตรเครดิตเสมือนจริงจาก Booking.com อยู่นอกขอบเขตของ SCA ซึ่งหมายความว่าธนาคารไม่สามารถบล็อกบัตรเหล่านี้ได้
หากลูกค้าเลือกชำระเงินให้ท่านโดยตรงและท่านเรียกชำระเงินจากบัตรของลูกค้าตอนเช็คอินหรือเช็คเอาท์ในตอนที่ลูกค้าอยู่ที่ที่พัก ท่านก็สามารถดำเนินการดังเดิม โดยไม่จำเป็นต้องใช้ SCA
กรณีที่อาจต้องใช้ SCA
หากท่านเรียกชำระเงินทางไกลจากบัตรของลูกค้า (เช่น เรียกชำระเงินล่วงหน้า ค่ามัดจำ หรือค่าธรรมเนียมการไม่เข้าเช็คอิน) ก็อาจต้องใช้ SCA
แม้ Booking.com จะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการกับการชำระเงินเหล่านี้ แต่ก็จะช่วยเหลือท่านเพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจาก SCA ในแง่การดำเนินงาน โดยในระหว่างที่ลูกค้าทำการจอง Booking.com ก็จะประเมินว่าการชำระเงินของลูกค้าอาจจำเป็นต้องใช้ SCA หรือไม่:
- หากเราเห็นว่าอาจจำเป็นต้องใช้ SCA เราก็จะขอให้ลูกค้าชำระเงินผ่านบริการรับชำระเงินออนไลน์ของเรา
- หากเราเห็นว่าการชำระเงินไม่จำเป็นต้องใช้ SCA ลูกค้าก็สามารถดำเนินการต่อโดยเลือกได้ว่าจะชำระเงินออนไลน์หรือชำระเงินให้ท่านโดยตรง ในกรณีที่ท่านยังคงไม่สามารถเรียกชำระเงินทางไกลจากบัตรของลูกค้า ก็สามารถแจ้งว่าบัตรใช้การไม่ได้และเราจะพยายามช่วยอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินของลูกค้าให้แทนท่าน
กรณีที่ Booking.com จัดการด้านการชำระเงินทั้งหมด
หาก Booking.com เป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินทั้งหมดให้ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใด ๆ เราจะช่วยตรวจสอบธุรกรรมการชำระเงินทั้งหมดของลูกค้าสำหรับการจองที่จองผ่าน Booking.com
จะทำอย่างไรหากไม่ต้องการใช้บริการรับชำระเงินออนไลน์หรือ Payments by Booking.com?
เราสามารถช่วยเหลือท่านในด้าน SCA ได้ก็ต่อเมื่อท่านสมัครใช้บริการด้านการชำระเงิน หากเลือกที่จะไม่ใช้บริการด้านการชำระเงิน ท่านก็จะต้องเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับการชำระเงินของลูกค้าและดำเนินการใช้ SCA ในกรณีที่จำเป็น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อธนาคารหรือผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน หรือดูลิงก์ที่เราแชร์ให้ในส่วน “ขั้นตอนถัดไป” ด้านล่าง
ควรทำอย่างไรหากไม่สามารถสมัครใช้บริการรับชำระเงินออนไลน์หรือ Payments by Booking.com?
โปรดติดต่อธนาคารหรือผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ซึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ PSD2 และวิธีตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้ปฏิบัติตามข้อบังคับ SCA แล้ว นอกจากนี้ท่านยังสามารถดูลิงก์ที่เราแชร์ให้ในส่วน “ขั้นตอนถัดไป” ด้านล่าง
ควรทำอย่างไรหากพบว่าธุรกรรมถูกปฏิเสธ?
หากท่านพบว่าธุรกรรมถูกปฏิเสธ ก็สามารถใช้ขั้นตอนแจ้งบัตรเครดิตใช้การไม่ได้เพื่อแจ้งว่าบัตรของลูกค้าไม่สามารถใช้การได้ และเพื่อช่วยให้ท่านเรียกเก็บเงินจากบัตรของลูกค้าได้เรียบร้อย ขณะนี้เรากำลังปรับปรุงขั้นตอนการแจ้งบัตรเครดิตใช้การไม่ได้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเป็นไปตามข้อบังคับ SCA โดยเราจะแจ้งข้อมูลอัปเดตให้ทราบเป็นระยะ ๆ เกี่ยวกับตัวช่วยนี้
ขั้นตอนถัดไป
เราจะโพสต์เนื้อหาเพิ่มเติมเพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูง รวมถึงช่วยให้ท่านเข้าใจอย่างชัดเจนว่ากฎหมายจะส่งผลกับท่านอย่างไรบ้าง รวมถึงว่าท่านสามารถเตรียมตัวอย่างไรได้บ้างก่อนที่กฎหมายจะเริ่มมีผลบังคับใช้
ในระหว่างนี้ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SCA ได้จากคณะกรรมาธิการยุโรป Adyen, Stripe หรือ JPMorgan
ทำไมกฎหมายใหม่จึงเรียกว่า PSD2?
PSD2 ย่อมาจาก Payment Service Directive 2 ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงของกฎหมายปัจจุบันเกี่ยวกับบริการด้านการชำระเงิน โดยฉบับปรับปรุงนี้กำหนดให้การยืนยันตัวตนของลูกค้าเข้มงวดขึ้นสำหรับการชำระเงิน/การซื้อทางออนไลน์ การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบขั้นสูงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า SCA ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า PSD2 คือตัวกฎหมาย ส่วน SCA หมายถึงขั้นตอนที่ต้องดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับ PSD2
จะมีการบังคับใช้ SCA ภายใต้กฎหมาย PSD2 ในดินแดนใดบ้าง?
มีการบังคับใช้ในยุโรป กล่าวคือจะใช้เมื่อธุรกิจที่ลูกค้าต้องการซื้อบางอย่างตั้งอยู่ภายในประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และธนาคารหรือบริษัทบัตรเครดิตที่ลูกค้าใช้ก็อยู่ในเขตนี้ด้วยเช่นกัน
PSD2 ใช้กับประเทศต่อไปนี้:
- ออสเตรีย
- เบลเยียม
- บัลแกเรีย
- โครเอเชีย
- สาธารณรัฐไซปรัส
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- กรีซ
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- ไอร์แลนด์
- อิตาลี
- ลัตเวีย
- ลิกเตนสไตน์
- ลิทัวเนีย
- ลักเซมเบิร์ก
- มอลตา
- โมนาโก
- เนเธอร์แลนด์
- นอร์เวย์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- โรมาเนีย
- สโลวาเกีย
- สโลวีเนีย
- สเปน
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- สหราชอาณาจักร
สิ่งนี้ส่งผลอย่างไรต่อประเทศของท่าน?
บางประเทศมีไทม์ไลน์ที่ต่างออกไปในการบังคับใช้ โปรดคอยเช็คข้อมูลในหน้านี้เพื่อดูการอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ
ประเทศ |
วันที่บังคับใช้ |
ฝรั่งเศส |
14 มีนาคม ค.ศ. 2021 |
เยอรมนี |
15 มีนาคม ค.ศ. 2021 |
สหราชอาณาจักร |
14 กันยายน ค.ศ. 2021 |
ระยะเวลาผ่อนผันที่ขยายให้จะมีผลกับการชำระเงินภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากธุรกิจในประเทศเหล่านี้เรียกเก็บเงินข้ามพรมแดนจากที่อื่นในเขต EEA ก็อาจต้องใช้ SCA กับการทำธุรกรรมดังกล่าว
-
นโยบายและการชำระเงินสำหรับผู้เข้าพัก
-
-
-