เพิ่มความดึงดูดใจให้ห้องเข้าตาผู้เดินทางกลุ่มหลัก ๆ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าผู้เดินทางจำนวนมากต้องการอะไรที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือความยืดหยุ่น การตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ความสบาย และความปลอดภัย การเข้าใจรูปแบบการค้นหาจึงจะช่วยให้ท่านปรับสิ่งที่เสนอได้อย่างสอดคล้องและตอบสนองต่อดีมานด์ได้
เราพบว่ามีผู้เดินทาง 3 กลุ่มที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ชุดเครื่องมือนี้จะช่วยให้ท่านตอบรับความต้องการของผู้เดินทางเหล่านี้ได้ อีกทั้งช่วยเพิ่มยอดจอง โดยที่ท่านไม่ต้องลดราคา
ตอบรับความต้องการของผู้เดินทาง
ผู้เดินทาง 3 กลุ่มกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มของเรา ได้แก่ ครอบครัวที่มีเด็ก ลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว และผู้เดินทางคนเดียว/เป็นกลุ่ม ผู้เดินทางเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีดีมานด์สูง และการตอบสนองความต้องการของกลุ่มดังกล่าวสามารถช่วยให้ท่านเพิ่มยอดจองและรายได้ของที่พักได้ โดยเฉพาะครอบครัวและผู้เดินทางเป็นกลุ่มซึ่งใช้จ่ายมากกว่าคู่รักอีกด้วย

ครอบครัวที่มีเด็ก
31% ของการค้นหาสำหรับฤดูร้อนบนแพลตฟอร์มของเรามาจากครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสบายเหนือสิ่งอื่นใด

ลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว
รูมไนท์ทั้งหมดที่จองบนแพลตฟอร์มของเราในปี 2021 นั้นมี 25% เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าพัก 7 คืนขึ้นไป ลูกค้ากลุ่มนี้อยากให้การไปเข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

ผู้เดินทางคนเดียว/เป็นกลุ่ม
จากแบบสอบถามเมื่อไม่นานมานี้พบว่าผู้เดินทาง 22% ค้นหาที่พักเพื่อเข้าพักกับกลุ่มเพื่อน และ 17% ตั้งใจที่จะเดินทางคนเดียวในปีนี้ การเสนอราคาเฉพาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้นจะช่วยให้ที่พักของท่านมีตัวเลือกที่ตรงกับที่ลูกค้าค้นหามากที่สุด
ชุดเครื่องมือของเรา
ท่านสามารถทำให้ผลการดำเนินงานของที่พักดีขึ้นบนแพลตฟอร์มของเราและดึงดูดผู้เดินทาง 3 ประเภทที่กำลังมาแรงได้ ด้วยการตั้งราคา ตัวเลือกว่างที่เปิดให้จอง และเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้านล่างนี้เป็นเป้าหมายบางประการที่ท่านอาจลองพิจารณา:
- ทำให้เนื้อหาและนโยบายมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นที่พักระหว่างการค้นหา
- ตั้งตัวเลือกราคาอย่างมีกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้เดินทางตอนที่เลือกว่าจะจองที่พักใด
ชุดคู่มือนี้มีคำแนะนำ 3 ประการให้ท่านทำตามได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างของตัวเลือกในที่พักท่าน และความแตกต่างของที่พักท่านกับที่พักอื่น อีกทั้งช่วยด้านการตั้งราคาตัวเลือกเพื่อให้เจาะกลุ่มลูกค้าที่กำลังเพิ่มจำนวนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ปรับนโยบายและตั้งราคาเฉพาะกลุ่มลูกค้า
ดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ใช่ด้วยการปรับนโยบายและตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลจำนวนผู้เข้าพักสูงสุดของแต่ละตัวเลือกนั้นเป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อให้ที่พักปรากฏในการค้นหา จากนั้นตั้งราคาเฉพาะกลุ่มลูกค้าเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าจองที่พักของท่าน
ครอบครัวที่มีเด็ก
ตั้งราคาสำหรับเด็กให้แข่งขันได้เพื่อเพิ่มยอดจองจากครอบครัวได้สูงสุด 15% โดยเฉลี่ย
คิดราคาเด็กเป็นต่อห้องหรือตั้งราคาสำหรับเด็กในช่วงอายุหนึ่ง ๆ โดยเฉพาะให้เป็นราคาแบบอิงตามเปอร์เซ็นต์
ลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว
รับประโยชน์สูงสุดจากดีมานด์สำหรับการเข้าพักระยะยาวได้ด้วยการตั้งเรทแพลนแบบพักเป็นสัปดาห์หรือพักเป็นเดือน เรทแพลนเช่นนี้จะช่วยท่านดึงดูดลูกค้าที่ต้องการเข้าพัก 7 วันขึ้นไป
ผู้เดินทางเป็นกลุ่ม/คนเดียว
การตั้งราคาตามจำนวนผู้เข้าพักช่วยให้ท่านมีโอกาสเพิ่มยอดจองได้สูงสุด 4% ต่อปี
ปรับราคาห้องหรือยูนิตให้อิงตามจำนวนผู้เข้าพักในห้องหรือยูนิตนั้น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักโดยรวม
2. เพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องให้หน้าข้อมูลที่พักของท่านเพื่อตอบรับความต้องการที่หลากหลายของผู้เดินทาง
หน้าข้อมูลที่พักที่มีประสิทธิภาพต้องมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการสร้างแรงบันดาลใจกับการให้ข้อมูล กล่าวคือดึงดูดความสนใจของผู้เดินทางประเภทต่าง ๆ ไปพร้อมกับตอบข้อสงสัยของผู้เดินทาง ด้านล่างนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกบางส่วนว่าผู้เดินทางกลุ่มหลัก ๆ ที่ใช้แพลตฟอร์มของเรานั้นอยากเห็นอะไรบ้างในหน้าข้อมูลที่พัก

ครอบครัวที่มีเด็ก
สิ่งที่สำคัญ - ความปลอดภัย ความสะอาด ทำเลที่ตั้ง และที่จอดรถ
มีหรือไม่มีก็ได้ - ความเป็นส่วนตัว ความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ สำหรับครอบครัว
ไม่จองแน่ - ราคาสูงและพักด้วยกันไม่ได้
การสำรวจข้อมูลของเราพบว่าภาพถ่ายและข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นเนื้อหาที่ครอบครัวให้ความสำคัญที่สุด

ลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว
สิ่งที่สำคัญ - WiFi แสงธรรมชาติ และเครื่องปรับอากาศ
มีหรือไม่มีก็ได้ - พื้นที่ทำงานและเครื่องซักผ้า
ไม่จองแน่ - มีเสียงรบกวนและสิ่งรบกวนอื่น ๆ
จากการสำรวจข้อมูลของเรา พบว่าปัจจัยที่ลูกค้าที่เข้าพักระยะยาวให้ความสำคัญที่สุดคือราคา ทำเลที่ตั้ง ตลอดจนการได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับที่พัก

ผู้เดินทางเป็นกลุ่ม/คนเดียว
สิ่งที่สำคัญ - ทำเลที่ตั้ง ความเป็นส่วนตัวในห้องหรือยูนิต
มีหรือไม่มีก็ได้ - ห้องน้ำในตัว พื้นที่ส่วนกลาง และบริเวณโดยรอบ
ไม่จองแน่ - ราคาสูง และการจัดพื้นที่ในห้องหรือยูนิตได้ไม่เหมาะสม
เราพบว่าผู้เดินทางเป็นกลุ่ม/คนเดียวใช้ภาพถ่ายมาตัดสินขนาด ความสะอาด และการจัดแจงพื้นที่
ประเมินเนื้อหาของท่านได้โดยใช้ 4 เกณฑ์ต่อไปนี้:
- ความถูกต้อง - ตรวจสอบว่าท่านระบุข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกของที่พักไว้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าที่มีแนวโน้มจองทราบว่าที่พักท่านเสนออะไรบ้าง
- ความเกี่ยวข้อง - ดูว่าภาพถ่ายแสดงถึงคุณลักษณะของที่พักท่านหรือไม่ เพราะภาพถ่ายที่ตรงกับที่พักจะทำให้ลูกค้าทราบว่าที่พักมีอะไรบ้างและเมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้รับอะไรกลับมา
- ความครบถ้วน - เนื้อหาที่ไม่ครบถ้วนจะทำให้เกิดความคลางแคลงใจ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าที่สนใจจองเปลี่ยนไปเลือกดูที่พักอื่น และท่านอาจพลาดโอกาสแสดงข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกที่ลูกค้ากำลังมองหาด้วยเช่นกัน
- ภาพคุณภาพสูง - ภาพที่ถ่ายมาอย่างดีจะทำให้มั่นใจว่าเมื่อดูภาพห้องผ่านคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพา ก็จะออกมาดูดีเหมือนกับห้องของจริง
คะแนนหน้าข้อมูลที่พักนั้นมีประโยชน์เมื่อต้องการประเมินเนื้อหา ท่านสามารถดูคะแนนนี้ของที่พักได้ในเอกซ์ทราเน็ต พร้อมทั้งคำแนะนำว่าจะปรับปรุงได้อย่างไรบ้าง ที่พักที่มีคะแนนหน้าข้อมูลที่พัก 100% จะได้ยอดจองเพิ่มขึ้นสูงสุด 18% เมื่อเทียบกับที่พักที่มีเนื้อหาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

3. ใช้เครื่องมือแยกความแตกต่างของห้องพักเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอัปเกรดแบบจ่ายเพิ่ม
การสำรวจข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่า 37% ของลูกค้าที่พิจารณาว่าจะอัปเกรดห้องหรือยูนิตนั้นสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อัปเกรด เพราะไม่เห็นเหตุผลว่าจะจ่ายเงินเพิ่มไปเพื่ออะไร
การแยกความแตกต่างของห้องพักเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการอัปเซลล์ ทั้งยังช่วยให้ท่านได้รับรายได้สูงสุดเท่าที่จะสามารถรับได้จากแต่ละห้องพักหรือยูนิต ในขณะเดียวกันก็สามารถจัดสรรประสบการณ์ที่มีความเฉพาะตัวให้กับผู้เดินทางกลุ่มต่าง ๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น การให้ข้อมูลว่าห้องพักหนึ่ง ๆ มีเครื่องซักผ้าก็จะดึงดูดใจลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว ในขณะที่ครอบครัวที่มีเด็กจะชื่นชอบอย่างมากหากมีห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน
เพื่อช่วยท่านดึงดูดลูกค้าที่เหมาะที่สุดกับห้องพักหรือยูนิตแต่ละประเภท เราจึงได้พัฒนาเครื่องมือแยกความแตกต่างของห้องพักขึ้นมาในเอกซ์ทราเน็ต โดยเครื่องมือนี้จะแนะนำสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับคุณลักษณะที่น่าดึงดูดใจที่สุดของห้องพักหรือยูนิต
หลักการทำงานของเครื่องมือแยกความแตกต่างของห้องพัก
ใช้เครื่องมือแยกความแตกต่างของห้องพักเพื่อสร้างความโดดเด่นให้คุณลักษณะเฉพาะของแต่ละห้อง ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าที่มีแนวโน้มจองสามารถเห็นสิ่งต่อไปนี้บนหน้าที่พักของท่าน:
- ในช่วงก่อนจองที่พักของท่าน ลูกค้าที่มีแนวโน้มจองจะสามารถดูข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกของแต่ละห้องหรือยูนิตและเปรียบเทียบความแตกต่างได้
- หลังจากที่ลูกค้าจองที่พักแต่ยังไม่ถึงกำหนดเช็คอิน เราแนะนำให้ลูกค้า “เปลี่ยนเป็นห้องที่ดีขึ้น” ในหน้ายืนยันการจองและอีเมลยืนยันการจอง โดยเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างตัวเลือกที่ลูกค้าจองไว้กับตัวเลือกอัปเกรดที่เสนอให้
หากลูกค้ายอมรับข้อเสนออัปเกรด เราจะส่งข้อมูลการจองที่ปรับเปลี่ยนแล้วไปให้ ส่วนห้องหรือยูนิตที่ลูกค้าจองไว้ในตอนแรกก็จะกลับไปเปิดให้จองในที่พักท่านอีกครั้งเพื่อให้ลูกค้ารายอื่นสามารถจองได้
