การโปรโมตแอปมือถือของเราเพื่อกระตุ้นธุรกิจเพิ่มขึ้นให้คู่ค้า

2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาของการลงทุนและการเติบโตสำหรับแอปของเรา โดยเรามียอดจองและอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) ของผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งบน iOS และ Android ฉันจะมาวิเคราะห์เจาะลึกถึงเทรนด์การเติบโตของเราเพื่อแสดงให้เห็นว่าการเติบโตนี้จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้คู่ค้าได้อย่างไรบ้าง โดยหวังว่าท่านจะมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตนี้ไปด้วยกันกับเรา เพียงหันไปใช้แนวทางแบบเน้นแอปเป็นอย่างแรกตามความเหมาะสมสำหรับธุรกิจของท่าน 

เมื่อมองในภาพรวมนั้น เราลงทุนสำหรับอนาคตของแอปเราโดยใช้กลยุทธ์แบบ 2 แนวทาง ได้แก่ กระตุ้นให้ผู้คนติดตั้งแอปให้มากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับแอปมากขึ้น และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราก็สามารถดำเนินการตามทั้ง 2 แนวทางนี้ได้ 

เรากระตุ้นให้ผู้คนติดตั้งแอปได้อย่างไร

ในแง่ของการหาผู้ใช้รายใหม่นั้น ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในแอปสโตร์ รวมถึงการเปิดใช้งานแคมเปญโฆษณาในแอปสโตร์และในส่วนต่าง ๆ ของเว็บ เมื่อ 2 ปีที่แล้วเราได้ยกระดับแนวคิดริเริ่มของเราด้วยการจัดตั้งทีมภายในทีมใหม่ขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นไปที่การโปรโมตแอปของเราโดยเฉพาะ และวิธีนี้ก็ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีผลดีต่อธุรกิจร่วมกับผู้ให้บริการซื้อขายในอีโคซิสเต็มของแอปได้ 

นอกจากนี้ แอปของเรายังเข้าถึงผู้บริโภครายใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เรายังคงเพิ่มตัวเลือกเที่ยวบินและทัวร์ต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสู่บริการด้านการเดินทางแบบครบวงจรของเรา ทางเลือกที่มากขึ้นทำให้แอปของเราน่าติดตั้งมากยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้เรายังได้กระตุ้นให้ลูกค้าจองผ่านแอปของเราโดยอาศัยแคมเปญต่าง ๆ อย่าง “ต้อนรับการกลับมาเดินทางอีกครั้ง” ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้แอปโดยเฉพาะ ในอนาคตท่านอาจเห็นแคมเปญเช่นนี้มากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของท่านได้

ความพยายามอย่างหนักทั้งหมดนี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนติดตั้งแอปได้ประสบผลสำเร็จแล้วในตอนนี้ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยซึ่งเป็นบุคคลที่สามแสดงให้เห็นว่า Booking.com เป็นแอป OTA ที่มีผู้ดาวน์โหลดมากเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และในช่วงไตรมาสเดียวกันนี้เรายังเป็นหนึ่งในแอป OTA รายใหญ่ที่มีผู้ดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีจำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ 

ผู้คนมีส่วนร่วมกับแอปมากขึ้น

ปกติแล้วผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้เปิดแอปวางแผนการเดินทางขึ้นมาใช้งานทุกวัน แต่เมื่อต้องการใช้แอปประเภทนี้ขึ้นมา ผู้ใช้เหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมกับแอปอย่างมาก มีความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้เพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมนี้ โดยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในเรื่องการเดินทางได้ทำให้ผู้เดินทางจำนวนมากหันไปใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อจะได้มีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับทริปต่อ ๆ ไปของตนเองมาอยู่ใกล้ ๆ แค่ปลายนิ้ว

ท่านได้รับยอดจองเพิ่มขึ้น

สิ่งที่อาจช่วยสรุปการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเหล่านี้ได้ดีที่สุดก็คือผลที่เกิดขึ้นในท้ายที่สุด ซึ่งก็คือท่านได้รับยอดจองเพิ่มขึ้น ตามที่เราได้แจ้งไปในการประชุมรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 นั้น ตอนนี้ยอดจองผ่านมือถือคิดเป็นกว่า 60% ของจำนวนรูมไนท์ทั้งหมดที่เราได้รับ 

เมื่อตัวชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจนเช่นนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมที่จะพิจารณาเรื่องการเสนอราคาสำหรับมือถือ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ที่พักของท่านโดดเด่นเหนือคู่แข่งและดึงดูดส่วนแบ่งยอดจองผ่านมือถือมายังที่พักของท่าน เนื่องจากคู่ค้าต่างแข่งขันกันเพื่อให้ลูกค้าเห็นที่พักของตนเองผ่านหน้าจอที่มีขนาดเล็กลง ข้อเสนอที่น่าสนใจเช่นนี้ซึ่งแสดงพร้อมกับป้ายสัญลักษณ์ที่โดดเด่นจึงสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก และเมื่อที่พักคู่ค้าเปิดใช้งานข้อเสนอประเภทนี้ ก็จะได้รับยอดจองเพิ่มขึ้น 28% โดยเฉลี่ย 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต: พุ่งเป้าไปยังตลาดเกิดใหม่ 

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้? ฉันได้ใช้เวลาอย่างมากเพื่อทำงานในตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และเม็กซิโก ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น ฉันคิดว่าพฤติกรรมของผู้ใช้ในตลาดเกิดใหม่เหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัดที่นำมาคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในแวดวงอีคอมเมิร์ซได้ 

ในระหว่างการประชุมเหล่านี้ ฉันได้รับฟังข้อมูลจากคู่ค้าทุกประเภท ตั้งแต่คู่ค้าที่เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ยูธโฮสเทล ไปจนถึงบ้านพัก พวกเขาเห็นข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครของแนวคิดที่เน้นแอปเป็นอย่างแรก และมีบ่อยครั้งที่มักจะขอให้เราพัฒนาข้อเสนอที่มีโทรศัพท์มือถือเป็นศูนย์กลางมากขึ้น เพราะคู่ค้าเหล่านี้มีความเข้าใจอย่างยิ่งต่อความต้องการของลูกค้าตนเอง ซึ่งถูกดึงดูดอย่างมากด้วยข้อเสนอที่เน้นแอปเป็นหลัก

เรื่องนี้มีสาเหตุที่เห็นได้ชัดเจน ข้อมูลจาก Google แสดงให้เห็นว่าในปี 2019 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 360 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี 90% ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก และในช่วงปี 2020 ภูมิภาคนี้ก็มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีก 40 ล้านราย ส่งผลให้จำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตในภูมิภาคมีเปอร์เซ็นต์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 70% ในบางแง่มุมก็อาจกล่าวได้ว่านี่ไม่ใช่เพียงตลาดที่เน้นแอปเป็นหลักเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเป็นตลาดที่เน้นแอปเพียงอย่างเดียว เมื่อพิจารณาถึงจุดได้เปรียบนี้ ก็จะเข้าใจได้อย่างง่ายดายว่าทำไมที่พักคู่ค้าจึงจำเป็นที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มือถือมากที่สุดและเจาะตลาดเกิดใหม่เหล่านี้