เส้นทางสู่ความยั่งยืนของฉัน: การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอพาร์ตเมนต์

เมื่อปีที่แล้วเราได้เปิดตัวธุรกิจใหม่อีกครั้งในชื่อ The Botanic Apartments คำว่า “Botanic” (เกี่ยวกับพืช) มีความหมายในเชิงบวกอย่างมาก และเราก็รู้สึกว่าคำนี้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่สวยงามของเราอย่างแท้จริง นี่ไม่ได้เป็นเพียงการรีแบรนดิ้งเท่านั้น สำหรับฉัน สิ่งนี้สื่อว่าเรามาไกลแล้วในเส้นทางสู่ความยั่งยืน และเราก็ภูมิใจอย่างยิ่งกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่เราได้บรรลุ 

จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ และการริเริ่มซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่

เราเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ด้วยการเปลี่ยนสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้เป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนหากเป็นไปได้ โดยเป็นสิ่งของต่าง ๆ เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เข้าพัก ถุงขยะ หลอดไฟ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เราหันไปใช้แนวคิดที่ว่า หากเราจำเป็นต้องซื้อหรือเปลี่ยนอะไร เราก็จะเลือกตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ทุกวันนี้เรานำความคิดนี้ไปใช้กับการซื้อของทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ 

จากนั้นเราจึงมองไปที่การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่สามารถทำได้เพื่อความยั่งยืน เราเริ่มให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนำกลับมาเติมได้สำหรับผู้เข้าพัก เช่น แชมพู ครีมนวดผม และสบู่เหลว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการกำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งออกจากที่พักของเรา ในขณะเดียวกันเราก็ประหยัดเงินไปได้อีกด้วย เนื่องจากเครื่องใช้ในห้องน้ำขนาดเล็กแบบบรรจุขวดแยกนั้นมีราคาแพงกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องจ่ายสบู่แบบเติมได้ 

นอกจากนี้ เรายังทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดประจำวันขึ้นมาใช้เองเพื่อลดการใช้สารเคมีที่รุนแรง ซึ่งอันที่จริงแล้วสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก เราใช้โซเดียมคาร์บอเนต น้ำส้มสายชู น้ำยาล้างจาน และแต่งกลิ่นให้หอมซึ่งเราใช้ลาเวนเดอร์ แต่คุณสามารถใช้อะไรก็ได้ที่ตนเองชอบ น้ำยาที่ผสมจากน้ำส้มสายชูที่เป็นกรดกับโซเดียมคาร์บอเนตที่เป็นด่างทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างมากจริง ๆ นอกจากนี้ พนักงานของเรายังบอกว่าชอบผลิตภัณฑ์ที่เราผลิตใช้เองอีกด้วย เพราะช่วยให้ไม่ต้องสูดดมหรือสัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรงขณะทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น การลดการใช้สารเคมีที่รุนแรงก็ไม่จำเป็นต้องแลกกับสุขอนามัยและความสะอาดที่ลดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าที่เคยนับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส โดยเราจะรักษาสมดุลระหว่างตัวช่วยเพื่อความยั่งยืนและมาตรการทำความสะอาดอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้นในด้านสุขอนามัย 

นอกจากนี้เรายังลงทุนในโครงการริเริ่มขนาดใหญ่ ๆ จำนวนมาก เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การสร้างสถานีชาร์จไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จู่ ๆ ก็จะทำได้เลย เพราะคุณจะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมมารองรับ แล้วก็ต้องเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลสำหรับธุรกิจของคุณ ซึ่งสำหรับเราแล้วถือว่าเหมาะสมเมื่อพิจารณาจากทำเลที่ตั้งของเรา 

เราระบุว่าเรามีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเอกซ์ทราเน็ต เช่นเดียวกับแนวทางด้านความยั่งยืนอื่น ๆ ทั้งหมดของเรา วิธีนี้ช่วยให้เราได้รับการจองเข้ามา เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งได้รับการจองจากลูกค้าที่เห็นว่าเรามีสถานีชาร์จและขอใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกนี้ในระหว่างเข้าพัก 

สำหรับในด้านพลังงาน เราใช้วิธีการซึ่งมี 2 แนวทาง โดยแนวทางแรกนั้น เราใช้มาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของเราให้เหลือน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เราลงทุนติดตั้งหน้าต่างแบบมีกระจก 2 ชั้นเพื่อให้ห้องพักมีอุณหภูมิสบาย ๆ และผู้เข้าพักจะได้ไม่ต้องรีบพุ่งเข้าหาระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศในฤดูร้อนหรือฮีตเตอร์ในฤดูหนาว ส่วนแนวทางที่ 2 คือ เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าเมื่อเราใช้พลังงาน พลังงานดังกล่าวต้องมาจากแหล่งที่ยั่งยืน โดยในกรณีของเรานั้น แผงโซลาร์เซลล์ของเราผลิตไฟฟ้าได้ 20 กิโลวัตต์ ซึ่งครอบคลุมความต้องการด้านพลังงานของเราได้เกือบทั้งหมด 

นอกจากนี้ แผงโซลาร์เซลล์ยังส่งผลโดยตรงต่อผลการดำเนินงานของเราด้วย โดยในบรรดาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สิ่งที่เราประหยัดไปได้มากที่สุดก็คือค่าสาธารณูปโภค ในช่วงปีนี้เราสามารถทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้กว่า 75% ซึ่งช่วยให้เราประหยัดไปหลายพันดอลลาร์ อันที่จริงแล้วในฤดูร้อนซึ่งมีแสงอาทิตย์มากกว่าช่วงอื่น เราสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากพอที่จะขายคืนไปยังเครือข่าย ซึ่งช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายจากการทำความร้อนของระบบฮีตเตอร์ในฤดูหนาว แต่หากพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใด เราคำนวณแล้วว่าต้องใช้เวลา 7 ปีจนกว่าเราจะถึงจุดคุ้มทุนของเงินลงทุนที่จ่ายไปล่วงหน้าสำหรับแผงโซลาร์เซลล์

มอบตัวเลือกให้ลูกค้า

เรื่องที่ดีมาก ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เราได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความยั่งยืนก็คือ สิ่งเหล่านี้ไม่มีผลกระทบเชิงลบกับลูกค้าแต่อย่างใด ลูกค้าบางคนอาจไม่ได้สังเกตหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คนที่สังเกตหรือมีความเห็นก็รู้สึกพึงพอใจและปลื้มเป็นอย่างยิ่ง 

กุญแจสำคัญในการทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในเส้นทางสู่ความยั่งยืนของคุณก็คือ การมอบทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะทำอะไรเพื่อความยั่งยืนได้ ตัวอย่างเช่น เรามีถังขยะประเภทต่าง ๆ ในแต่ละอพาร์ตเมนต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะรีไซเคิลได้ เราได้รับความเห็นจากลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่เดินทางติดต่อธุรกิจซึ่งต้องอยู่ห่างบ้านบ่อย ๆ ว่าพวกเขารู้สึกพอใจที่มีตัวเลือกนี้ 

ลูกค้าของเราที่มีรถยนต์ไฟฟ้าชอบที่จะชาร์จรถจากไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของเรา ลูกค้ากลุ่มนี้ตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ดังนั้นการเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องนี้จึงเป็นความคิดที่ดีเสมอ นอกจากนี้ สิ่งนี้ก็มักจะทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำด้วยเช่นกัน โดยเราทราบจากความคิดเห็นว่าการที่เรามีความน่าเชื่อถือในด้านความยั่งยืนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมาพักซ้ำ

มองหาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณไม่รู้ก็คือไม่รู้ และเราก็ได้รับคำแนะนำที่ดีมาก ๆ จากซัพพลายเออร์ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้โดยมีข้อมูลประกอบตลอดเส้นทางการดำเนินการของเรา ตัวอย่างเช่น เราเคยขอให้สภาท้องถิ่นมาช่วยดำเนินการตรวจสอบในเรื่องพลังงานสีเขียว โดยรายงานฟรีจากหน่วยงานนี้ครอบคลุมหลายแง่มุมของธุรกิจเรา ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์การใช้พลังงานของเรา พร้อมกันนั้นก็อธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงแบบใดจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด สิ่งนี้ช่วยเราได้อย่างมากให้สามารถโฟกัสว่าจะต้องเริ่มจากจุดไหน และช่วยให้เรามีแผนในการดำเนินการ คำแนะนำหลักของฉันสำหรับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ก็คืออย่าพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ให้มองหาผู้เชี่ยวชาญและเรียนรู้จากพวกเขา คำถามที่ฉันชอบถามผู้เชี่ยวชาญคือ “ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร?”

สรุปว่าการลงทุนในด้านความยั่งยืนของเราคุ้มค่าไหม? แน่นอน 100% การใช้มาตรการด้านความยั่งยืนช่วยให้ธุรกิจเราดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งนี้ทำให้เราและทีมงานรู้สึกดีขึ้นกับการได้ทำงานที่นี่ แถมจำนวนลูกค้าที่กลับมาพักซ้ำก็เพิ่มสูงขึ้น ฉันเชื่อว่าเราทุกคนควรมีส่วนร่วมในการสร้างผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนก็เป็นวิธีหนึ่งที่ฉันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้