เทรนด์ที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางอย่างยั่งยืนในปี 2022

ผลกระทบจากทริปเดินทางยังคงเป็นสิ่งที่ผู้เดินทางทั่วโลกจำนวนมากคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ โดยเกือบ 3 ใน 4 (71%) เผยถึงความต้องการที่จะเดินทางอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากรายงานปี 2021ของเรา ผู้เดินทาง 2 ใน 3 (66%) ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันเป็นแบบอย่างของวัฒนธรรมท้องถิ่น และอีก 59% ตั้งใจว่าจะทำให้สถานที่ที่ไปเยือนนั้นดีขึ้นตอนกลับออกมา เมื่อเทียบกับตอนเดินทางไปถึง ผู้ตอบแบบสอบถามครึ่งหนึ่ง (50%) กล่าวว่าข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลให้ตนตัดสินใจเลือกอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นในด้านการเดินทาง 

46% ของผู้เดินทางทั่วโลก (ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้มีกำลังใจ) กล่าวว่าตนเคยเข้าพักในที่พักแบบยั่งยืนในช่วงปีที่ผ่านมา โดย 41% ของผู้เดินทางกลุ่มดังกล่าวบอกว่าตนเลือกที่พักแบบยั่งยืนเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วน 1 ใน 3 (33%) ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่นยิ่งขึ้น และ 31% เชื่อว่าที่พักแบบยั่งยืนปฏิบัติต่อชุมชนดีกว่า 

นอกจากนี้ ผู้เดินทางต่างเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการหลีกเลี่ยงจุดหมายที่พลุกพล่านและมีผู้คนไปเยือนมากเกินไป โดย 1 ใน 3 (33%) กล่าวว่าตนเลือกที่จะเดินทางนอกช่วงพีคซีซัน และกว่า 1 ใน 4 (27%) เลือกที่จะไปยังจุดหมายที่ผู้คนนิยมเดินทางไปน้อยกว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวล้น เมื่อนึกถึงทริปถัด ๆ ไป 40% กล่าวว่าตนเต็มใจที่จะเดินทางเฉพาะนอกช่วงพีคซีซันเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวล้น และ 64% เผยว่าตนจะหลีกเลี่ยงจุดหมายและสิ่งที่น่าสนใจยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเพื่อให้แน่ใจว่าผลที่ได้และประโยชน์ที่เกิดจากการไปเยือนของตนนั้นกระจายตัวกันอย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น เกือบ 1 ใน 3 (31%) เต็มใจกระทั่งจะเลือกจุดหมายทางเลือกแทนจุดหมายที่ตนอยากไปมากกว่าเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวล้น

ตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางเพื่อดึงดูดดีมานด์ 

เมื่อความมุ่งมั่นเชิงบวกมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โอกาสที่แวดวงจะส่งเสริมความทุ่มเทในการสร้างและสื่อสารเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่การรับรู้และการเห็นที่พักแบบยั่งยืนยิ่งขึ้นกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นได้จากผู้เดินทางทั่วโลก 40% ที่ยืนยันว่าตนเคยเห็นที่พักแบบยั่งยืนบนเว็บไซต์ออนไลน์ด้านการเดินทางในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ทุกคนสามารถหาตัวเลือกที่พักแบบยั่งยืนได้ง่ายดายยิ่งขึ้น 

31% ของผู้เดินทางที่ไม่ได้เข้าพักในที่พักแบบยั่งยืนในช่วงปีที่ผ่านมากล่าวว่าตนไม่รู้ว่ามีที่พักแบบนี้อยู่ และเกือบ 1 ใน 3 (29%) กล่าวว่าตนยังคงไม่รู้ว่าจะหาที่พักแบบนี้ได้อย่างไร กว่าครึ่ง (56%) ยอมรับว่าตนไม่ได้ตั้งใจมองหาข้อมูลสิ่งที่ที่พักทำเพื่อความยั่งยืนก่อนที่จะทำการจอง แต่หากข้อมูลดังกล่าวเข้าถึงได้ง่าย ตนก็จะตรวจสอบ สิ่งนี้ยิ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำให้ข้อมูลด้านความยั่งยืนนี้โปร่งใสและเข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้เดินทางในวงกว้าง 

เนื่องจาก 78% ของผู้เดินทางทั่วโลกตั้งใจว่าจะเข้าพักในที่พักแบบยั่งยืนอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงปีนี้ จึงมีโอกาสมากทีเดียวที่จะลดช่องว่างระหว่างผู้ที่รู้แล้วว่าตนเองมองหาอะไรกับผู้ที่ยังคงลำบากกับการพยายามมองหาตัวเลือกที่ใช่ ยิ่งไปกว่านั้น กว่า 1 ใน 3 (35%) ของผู้เดินทางทั่วโลกกล่าวว่าสิ่งที่ที่พักและผู้ให้บริการด้านการเดินทางทำเพื่อความยั่งยืนมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจด้านที่พักและการเดินทางของตนตามลำดับ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากถึง 70% ที่กล่าวว่าตนมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเลือกที่พักแบบยั่งยืน ไม่ว่าจะกำลังมองหาที่พักแบบยั่งยืนเป็นการเฉพาะเจาะจงหรือไม่ก็ตาม 

“การได้เห็นผู้เดินทางทั่วโลกมีส่วนร่วมยิ่งขึ้นกับการเดินทางอย่างยั่งยืนและแสดงเจตจำนงมากขึ้นกว่าเดิมที่จะสร้างผลเชิงบวกระหว่างที่ออกสำรวจโลกกว้างนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้มีกำลังใจอย่างมาก แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” Danielle D’Silva ผู้เป็น Head of Sustainability ของ Booking.com กล่าว “เราตระหนักดีถึงบทบาทสำคัญที่บรรดาคู่ค้าของเรามีต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ และการลงทุนกับผลิตภัณฑ์และโปรแกรมที่เหมาะสมซึ่งสามารถช่วยให้คู่ค้าสื่อสารสิ่งที่ตนพยายามทำให้ผู้เดินทางที่จดจ่อและให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้นได้ทราบนั้นก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อร่วมมือกัน เราจะสามารถก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางสายนี้ และเปลี่ยนความตั้งใจที่จะสร้างผลดี ๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเดินทางอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย” 

การเดินทางอย่างยั่งยืน

เพื่อช่วยให้ผู้เดินทางเลือกตัวเลือกที่มีความยั่งยืนมากขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมที่พักที่รุดหน้าบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนไปมากแล้ว เราจึงเริ่มใช้ป้ายสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” ในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ป้ายสัญลักษณ์นี้เป็นตัวช่วยแรกสุดในเรื่องนี้ ซึ่งได้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการยกย่องและสื่อสารเกี่ยวกับสิ่งที่ที่พักทั่วโลกดำเนินการเพื่อความยั่งยืน โดยจนถึงตอนนี้มีที่พักทั่วโลกถึง 99,000 แห่งแล้วที่ได้รับการยกย่องนี้ ป้ายสัญลักษณ์นี้ออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือที่เป็นสากลเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของที่พักทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ในอัมสเตอร์ดัม โฮมสเตย์ในอินเดีย ไปจนถึงรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งโกลด์โคสต์ในออสเตรเลีย โดยมุ่งเน้นไปที่แนวทางซึ่งเลือกมาโดยอิงจากการเข้าถึงได้ง่าย ความเรียบง่าย และความสามารถที่จะสร้างผลกระทบได้มาก รวมทั้งได้รับการรับรองโดยหน่วยงานอิสระในแวดวง เช่น Travalyst ซึ่งเป็นองค์กรริเริ่มด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนระดับโลก 

นอกจากแนวทางเพื่อความยั่งยืนทั้ง 32 รายการซึ่งได้มีการบันทึกและวิเคราะห์เพื่อใช้ในการมอบป้ายสัญลักษณ์ดังกล่าวแล้ว เรายังได้เพิ่มจำนวนป้ายกำกับและการรับรองจากบุคคลที่สามมากขึ้นไปอีก โดยนำมาใช้เพื่อรับรองโดยอัตโนมัติว่าที่พักมีคุณสมบัติที่จะได้รับป้ายสัญลักษณ์ นอกเหนือจากการรับรองและป้ายกำกับที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดย Global Sustainable Tourism Council (GSTC), Green Tourism และ EU Ecolabel แล้ว ขณะนี้ก็ยังรวมถึงการรับรองจาก Green Seal, Nordic Swan Ecolabel, Green Hospitality Ecolabel, Ibex Fairstay, Fair Trade Tourism, LEED และ Edge อีกด้วย 

นอกจากนี้ ป้ายสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” ยังได้รับการสนับสนุนจากโปรแกรมในส่วนให้ความรู้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ท่านระบุและติดตามการดำเนินการที่สามารถวัดผลได้ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบที่ท่านมีต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มผลทางสังคมต่อโลกใบนี้ คู่มือด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนของเราออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือท่านบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าท่านจะอยู่จุดใดก็ตามบนเส้นทางดังกล่าว โดยมีตั้งแต่เคล็ดลับในการกำหนดจุดอ้างอิงในการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงคำแนะนำเชิงเทคนิคเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ เช่น การลดการใช้น้ำและพลังงาน